บางสิ่งไม่อาจสามารถตัดสินได้ด้วยตา

ถ้าเราจะต้องเลือกไปร้านกาแฟสักร้านแล้วต้องแต่งร้านสวย ใช้อุปกรณ์แพง มีมุมถ่ายรูปเยอะๆ
เราจะไม่ได้พบเจอหรือก็มีน้อยมากในญี่ปุ่น
กาแฟที่ดีมันต้องดมและอมผ่านลิ้นค่อยกลืนลงไป
ดังนั้นไม่ต้องดูบรรยากาศร้านอะไรมาก ไปชิมให้รู้กันไป

ผมเดินผ่านหน้าร้านแล้วรู้สึกถึงความเรโทร กาแฟมากมายมหาศาลกองอยู่หน้าร้าน เหมือนบ่งบอกว่าร้านนี้มีให้เลือกเยอะนะ
ระหว่างที่ยืนเมาเมล็ดกาแฟอยู่นั้น ก็ต้องหลบให้กับนักดื่มกาแฟที่ไม่ต้องมาเสียเวลายืนมองเมล็ดกาแฟอยู่นาน

เพราะเขานำทางด้วย กลิ่น ลิ้น และสัมผัส ไม่ต้องมองครับนี่คือข้อได้เปรียบ
เมื่อประสาทสัมผัสมันมีมากเราก็มักจะใช้มันให้ครบโดยไม่ได้จำเป็นไปซะทุกเรื่อง
เช่นการจะกินกาแฟสักแก้ว เอาได้เวลาเข้าร้านแล้วครับ

นอกจากร้านจะดูย้อนยุคคนขายก็อยู่ในยุคของร้านด้วยแต่เป็นการเก่าประสบการณ์ของการขายกาแฟมาอย่างยาวนาน
กาแฟอะไรแพงกว่าซูชิอีกแต่ถ้ามันจะขนาดนั้นก็ต้องลองครับ

คุณป้าเจ้าของร้านหยิบเมนูที่มีแต่ตัวหนังสือญี่ปุ่นออกมากาง
ผมก็ท้าทายนางด้วย โอมากาเสะ เท่านั้นแหละครับภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่เอโดะ เมจิ มาเป็นพรวน
ผมยิ้มแล้วพูดซ้ำไปอีกรอบ โอมากาเสะ

ผมได้กาแฟที่ได้รับการคัดเลือกพิเศษจากเจ้าของร้านมาจิบ มันจะบางกว่าเครื่องเอสเพรสโซ่แต่ว่ามันกลมกล่อมตามประสากาแฟดริป คุณป้ามาถามว่าเป็นยังไงถูกใจหนูไหม ผมก็พยักหน้าหงึกๆดีครับ สมาคม blind taste อยู่ที่ชั้นลอย คุยกันสนุกสนานและกาแฟถูกนำไปปรนเปรอ ตลอดเวลา

ร้านมีที่นั่งไม่มากไม่เกินสิบโต๊ะ มีคนเวียนวนมาทานอาหารและกาแฟ มีคนมานั่นบาร์กาแฟแล้วก็ชวนคุยกับบาริสต้า และมีกลุ่มสมาคมนักดื่มคุยกันออกรสชาติอยู่ข้างบน ร้านที่ดูไม่มีอะไรเลยกลับดูอบอุ่น มากกว่าการแต่งบรรยากาศให้คนมาถ่ายรูปแก้วกาแฟแล้วก็จากไป โดยที่ไม่ได้ทานกาแฟ

ถ้าได้มาที่นี่อีกจะแวะไปนะครับ อุสุโนมิยะ ใครอยากไปตามแผนที่ครับ

 

Comments

comments

Choltib Ransibrahmanakul