วันนี้วันพระก็ขอเอาเรื่องพระมาเล่าให้ฟังแล้วกัน
นานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่ได้ใส่บาตรกัน
คำตอบคงจะเป็นทางเดียวกันคือไม่ค่อยได้ใส่บาตรเพราะไม่ค่อยมีเวลา
แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่พยายามตื่นมาใส่บาตรในวันพระ
(จริงๆแบ่งไปใส่วันอื่นก็ได้เหมือนกันจะได้ของไม่เหลือ)
ถามต่อ แล้วได้ทำอาหารสำหรับใส่บาตรเองหรือเปล่า
ผมว่าคำตอบน่าจะไปในทางเดียวกันคือ เปล่า เนื่องจากกินเองยังไม่ทำเลย
พระก็อาหารถุงที่เค้าจัดโต๊ะไว้ละกันสะดวก รวดเร็ว
ผมจำความได้สมัยผมเด็กๆที่บ้านจะทำกับข้าวถวายพระด้วยตัวเอง
เพราะว่าผมเคยจะตักกับข้าวทานโดนที่บ้านห้ามทานต้องถวายพระก่อน
หรือไม่ก็ต้องตักแยกออกมาต่างหากไม่ไปปะปนกับที่จะถวายพระ
ของที่จะทำถวายพระนั้นจะเป็นของที่ดีที่สุด ผลไม้ก็เลือกผลที่ดี
แต่ไม่รู้ว่าเวลาเปลี่ยนไปตอนไหน เราจะเห็นแผงขายอาหารถุงถวายพระ
มัดเป็นชุดให้เสร็จสรรพ ข้าว กับข้าว ดอกไม้ ธูป เทียน ซองชมพู น้ำถ้วยนึง
ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะมีพระประจำบู้ธ ยืนรอให้ใส่บาตรประจำเลยก็ได้
มาว่าด้วยเรื่องคลีนฟู้ด หรืออาหารสุขภาพ ตอนนี้น่าจะเป็นกระแส
ที่คนใส่ใจกับสุขภาพกันมากขึ้นการเลือกรับทานอาหารที่เป็นประโยชน์
จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามแต่เรากลับมองข้ามพระที่เรานำอาหารไปถวาย
พระเลือกไม่ได้ต้องฉันตามที่ญาติโยมนำมาใส่บาตรนั่นแหละ
จริงๆผมอยากให้เราลองซื้ออาหารถุงเหล่านั้นกลับไปกินเองด้วย
จะได้รู้ว่าที่ใส่บาตรไปท่านฉันรสชาติเป็นอย่างไร
ในวันที่เราอยากจะสุขภาพดี เราก็อยากจะให้พระสุขภาพดีด้วย
หันมาใส่บาตรอาหารที่เป็นประโยชน์กับสุขภาพกันเถิดครับ
แล้วอะไรที่ควรใส่บาตร ข้าวกับอาหารก็พอ น้ำไปถวายที่วัดเป็นครั้งคราว
โยมใส่บาตร 5 คนใส่น้ำมา 5 ขวด พระก็ฉันไม่หมดละถือไม่หมดด้วย
ปล. พระบิณฑบาตรไม่ต้องใส่เงินลงไป
ศีล10ก็บอกอยู่แล้วว่า ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
แปลว่าเว้นจากการรับเงินทอง อยากทำบุญด้วยเงินไปที่วัด หยอดตู้จะดีกว่า