IMG_0485

เรื่องมีอยู่ว่าเอารถไปล้างเคลือบด้วย carnauba wax (น้ำมันสกัดจากธรรมชาติ)
แล้วก็เห็นหลายร้านใช้น้ำยาแนวใหม่ที่เรียกกันว่าเคลือบแก้ว(เดี๋ยวนี้มีเคลือบเซรามิค)
ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ ครั้งแรกที่เคลือบด้วยcarnauba wax มันจะไม่เงาแว้บแค่เงาเฉยๆ
ส่วนใครที่ลงน้ำยาแบบเคลือบแก้วมันจะเงาแว้บในทันที ที่ใช้คำว่าเคลือบแก้วมันเงาประดั่งเคลือบด้วยผิวแก้วอีกชั้นหนึ่ง แล้วเราก็ไม่ต้องเคลือบอะไรไปอีก5ปี ล้างรถอย่างเดียว
carnauba wax เองจะค่อยๆทำหน้าที่มันคือมันจะค่อยๆเงาขึ้นไปหลังจากที่เราเคลือบครบ5ปี มันก็จะเงาแว้บเท่ากับเคลือบแก้วในขณะที่ครบ5ปีเคลือบแก้วต้องเคลือบใหม่เพราะหมดอายุขัย

เห็นเรื่องนี้เลยนึกถึงที่พระเจ้ามิลินท์มีคำถามกับพระนาคเสน
พระเจ้ามิลินท์: ทำไมคนทำดีไม่ได้ดีแต่คนทำชั่วกลับได้ดี
พระนาคเสน: การทำดีก็เหมือนกับปลูกพืชเราปลูกพืชวันนี้เราไม่ได้ผลมากินทันทีต้องรอมันออกผลแต่เมื่อมันออกผลแล้วเราก็เก็บผลกินไปได้ตลอด
พระเจ้ามิลินท์: แล้วทำชั่วล่ะ
พระนาคเสน: การทำชั่วไม่เห็นผลทันทีแต่เมื่อผลของกรรมมาถึงแล้วก็จะหมดไปในทันที
พระเจ้ามิลินท์: แล้วทำไมคนได้ผลดีไม่เท่ากันบางคนก็มีมากบางคนก็มีน้อย
พระนาคเสน: ขึ้นอยู่กับว่าเราปลูกอะไรบางอย่างปลูกยากให้ผลนานบางอย่างปลูกง่ายให้ผลสั้น
พระจ้ามิลนท์: พระผู้เป็นเจ้ากล่าวถูกต้องแล้ว
พระนาคเสน: ขอถวายพระพร

คิดว่าสองเรื่องนี้เป็นคนละเรื่องเดียวกันแต่เห็นเรื่องแรกแล้วคิดถึงเรื่องสอง
บางคนอยากทำบางอย่างแล้วให้เห็นผลทันทีเลยไม่คิดว่านั้นเป็นบาปหรือเปล่า เช่นโกงแล้วรวยเลยเงินหมดก็โกงอีกหรือโกงไปเรื่อยๆจนมีใช้ไม่หมด
บางคนก็ค่อยๆสร้างขึ้นมาด้วยความเพียรจนประสบความสำเร็จซึ่งยากกว่ามากแต่ก็สำเร็จผล

กลับไปสู่เรื่องแรกบางคนก็ชอบจ่ายครั้งแรกแล้วเงาเลยแต่จะค่อยๆหมองลงไปเมื่อครบอายุ
บางคนก็ชอบที่จะเห็นมันค่อยๆเงาขึ้นแล้วมันก็จะเงาไปตลอดแต่ก็ต้องเคลือบตลอดเช่นกัน
สองแบบนี้ไม่มีคนผิดหรือมีคนชั่วนะครับมันแล้วแต่ชอบเป็นเรื่องของรสนิยม
ผมเป็นแบบที่สองครับค่อยๆดูเค้าไปเรื่อยๆ
ต้นไม้ใหญ่ที่บ้านก็ซื้อมาตั้งแต่ต้นเท่าศอกให้งอกงาม
(ใหญ่เลยก็ดีแต่ไม่มีตังค์ 55)

ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ทุกท่าน
ศานติศานติ
ดีเจปืน

Comments

comments

Choltib Ransibrahmanakul