Browse archive

April 2015

Home / 2015 / April

Latest Posts

Kind of Blue

เป็นเวปแจ๊สที่คุยเรื่องแจ๊สน้อยกว่าเรื่องอื่นๆมาก วันนี้เลยขอหยิบเรื่องราวของแจ๊สมาเล่าให้ฟังคั่นเรื่องอื่นๆบ้าง มีภาพยนตร์อยู่เรื่องนึงนางเอกเธอพยายามทำให้พระเอกปลื้มโดยการชอบในสิ่งที่พระเอกชอบ แล้วพระเอกก็ดันชอบเพลงแจ๊ส เธอนำเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนเธอฟัง นางเป็นคนลึกซึ้งเรื่องนี้พอสมควร นางบอกกับเพื่อนนางว่าแค่แจ๊สอย่างเดียวมันไม่พอหรอก มันก็เหมือนกับเธอบอกกับผู้ชายสักคนว่าเธอชอบอาหารแล้วมันอาหารอะไรล่ะ แจ๊สก็เหมือนกันมันไม่ใช่แค่ แจ๊ส มันยังมีดีเทลลงไปในแจ๊สอีกมากมาย ทั้งBig Band, Standard Jazz, Be bob, Hard bob, swing, Fusion Jazz, etc. และอีกมากมาย สำหรับผมอันดับต้นๆของการฟังแจ๊สคือ Standard Jazz ลักษณะเหมือนการเล่นที่เป็นแบบแผนแต่ละคนได้แสดงความสามารถและฟังได้ง่ายไม่ต้องเตียมใจไปฟังก่อนล่วงหน้า อัลบั้มที่ควรค่า Kind of Blue โดย Miles Davis อัลบั้มนี้ออกเมื่อปี ปลายเดือนเมษายนปี 1959 ครบรอบ 56ปี

Read More
โรงคั่วชิดลม

  สำหรับคอกาแฟไปไหนก็ต้องหากาแฟรับทานไปเรื่อย หลังจากไปทำงานที่บ้านโป่งก็ต้องไปหากาแฟที่บ้านโป่งชิมกัน วันนี้เราบุกไปถึงโรงคั่วกาแฟต้นตำรับของเมล็ดกาแฟกันเลยทีเดียว ที่นี่ผลิตกาแฟส่งให้กับหลายๆร้านในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เมล็ดกาแฟได้รับการคัดเลือกสายพันธุ์ทั้งไทยและต่างประเทศมาคั่วในลักษณะเฉพาะตัวเอง ทีแรกก็หวั่นใจว่าไปโรงคั่วแล้วจะมีกาแฟรับทานหรือเปล่ามีครับที่นี่มีกาแฟดริปคือใช้น้ำร้อนผ่านฟิลเตอร์ไปอย่างช้าๆ (ประเทศญี่ปุ่นนิยมทานกันแบบนี้) มาดูบรรยากาศร้านบ้าง ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อผมนึกถึงย่านธุรกิจในกรุงเทพฯ ชิดลม ฟุ้งไปต่างๆนานาว่าเจ้าของคงเคยทำงานที่นั่นแล้วก็หนีความวุ่นวายมาอยู่ที่นี่ หรือไม่ก็บ้านเดิมอยู่ที่นั่นแต่หลังจากได้ทราบความจริงคือ โรงคั่วกาแฟนี่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งและบ่อน้ำจึงใกล้ชิดกับลมนั่นเอง ร้านเป็นแบบเปิดโล่งรอบด้านถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนแต่ลมก็จะพัดให้รู้สึกสบายตลอดเวลา ที่ร้านเน้นความเรียบง่ายของแท้แต่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง เมื่อเดินเข้าไปคุณจะพบอาคารชั้นเดียวรอต้อนรับอยู่   ที่ร้านเน้นโรงคั่วกาแฟเป็นหลักดังนั้นตัวเลือกกาแฟแบบต่างๆจึงมีไม่มาก ผมจึงสั่งกาแฟดริปมาลอง แต่ละวันที่เราเข้าไปทานดริปเราจะได้รับกาแฟที่ไม่เหมือนกัน ทางร้านจะคั่วกาแฟแบบต่างๆมาให้คุณได้แปลกใจเสมอ วันนี้พิเศษจริงๆเพราะอยากถ่ายรูป บาริสต้าจึงอาสามาดริปโชว์ที่โต๊ะเลย เสน่ห์มันอยู่ตรงไหนทราบไหมครับ มันอยู่ที่สั่งกาแฟแล้วค่อยบดด้วยมือ ต้มน้ำตวงกาแฟค่อยๆดริป รสชาติของกาแฟดริปจะไม่เหมือนกับกาแฟที่ผ่านเครื่องสตรีมไอน้ำ คือมันไม่เข้มข้น แต่มันหอมละมุนแปลกที่คุณจะได้กลิ่นของกาแฟมากกว่า มีรสให้สัมผัสมากกว่า และใจเย็นกว่า(เพราะต้องรอ) ถึงแม้ว่าร้านจะสแตนอโลนแต่ก็มีลูกค้าเข้าออกมาอย่างไม่ขาดสายไม่เพียงแต่บาริสต้าทักทายลูกค้าเท่านั้นลูกค้ายังทักทายกันเองยังกับรู้จักกันอย่างแนบแน่น ที่นี่จึงเหมือนคอมมิวนิตี้นึงที่ทุกคนแวะเวียนไปตั้งแต่ สัตวแพทย์ ครู นักการตลาด และนักชิม สิ่งที่ผมสังเกตอย่างนึงคือทุกคนล้วนมีของกินติดไม้ติดมือมาแบ่งกันทานและสนุกกับการรับทานกาแฟแบบเพื่อนเสมอ ผมเองยังได้หมูย่างบ้านโป่งมาแกล้มกับกาแฟด้วย(ขอบคุณพี่หมอมา

Dalum Milk

มีใครชอบทานนมหรือต้องใช้นมเป็นส่วนผสมในการทำขนมบ้างไหมครับ วันนี้ผมได้รู้จักนมตัวหนึ่งจากคุณแบงค์เจ้าของ Velo Cafe หัวหิน คุณแบงค์เล่าให้ฟังว่าได้ไปค้นพบนมตัวนึงที่ทานเข้าไปแล้วรู้สึกถึงความเป็นนมที่เหมือนสมัยเคยกินตอนเด็กๆคือมันมัน หอม แน่น เนียน ผมเคยจดจำรสชาตินั้นและก็ไม่ได้ทานมันอีกเลยตั้งแต่ผมโตมาเหมือนกัน สมัยก่อนพ่อผมจะซื้อนมจากคนเลี้ยงวัวแล้วเอามาต้มหรือนึ่งกินกันมันอร่อยของแท้ ทานจนติดไปกินนมปรุงแต่งแล้วทานไม่อร่อยไปเลย แล้วผมก็ไม่ได้ทานอะไรแบบนั้นอีก อยากทานนมก็เข้าร้านสะดวกซื้อหยิบมาขวดแล้วก็ทานจนชินกับรสชาติของมัน จนเวลาล่วงเลยมาหลายสิบปีก็ได้ยินคำนี้อีกครั้งว่ามันมัน ผมนี่รีบลุกไปหานมยี่ห้อนั้นมารับทานเลยครับ เจ้านมตัวนี้มีชื่อว่าดาลุ่มเป็นนมไทยผลิตที่ลพบุรีบ้านเรานี่เอง บอกไว้ก่อนว่าคุณจะไม่มีทางเจอนมยี่ห้อนี้ที่ร้านสะดวกซื้ออย่างแน่นอน เพราะเจ้าของ Copy Paste เค้าวางผลิตภัณฑ์เค้าไว้จนหมดหรือคุณต้องเป็นเจ้าใหญ่มากๆถึงจะเบียดขึ้นชั้นวางได้ ผมมาเจอดาลุ่มจากFoodlandครับ ขอให้คุณดูจำนวน Calที่ข้างขวดขนาด LowFat ยังมี Cal มากกว่านม MoreFat ของเจ้าใหญ่คือ 74cal โชคดีที่ดาลุ่มทำโยเกริ์ตด้วยผมก็กวาดมาลองหมด ผมไม่รอให้ถึงบ้านจ่ายตังค์เสร็จฉีกฝารับทานทันที อืมมมมมันใช่อย่างที่ว่า ปลายประสาทการรับรสบอกกับผมว่า ผมได้นมที่เคยกินตอนเด็กๆกลับมาแล้ว คงไม่แปลกอะไรถ้าเราเอานมนี้ไปต่อยอดทำกาแฟลาเต้แล้วมันอร่อยกว่าเดิม เอาไปทำโยเกริ์ตแล้วมันอร่อย หรืออะไรก็ตามลองเปลี่ยนจากนมของ Copy

ผ้าตีนจกคูบัว

ถ้าเอ่ยถึงจังหวัดราชบุรี สิ่งแรกที่อยู่ในหัวคือโอ่งแต่จริงๆแล้วราชบุรียังมีของดีอีกมากมาย และสิ่งที่มีค่ามากของประเทศไทยที่ซ่อนอยู่ในราชบุรีนั่นคือ ผ้าตีนจกคูบัว คูบัวเป็นเมืองเก่าแก่ของประเทศไทยมายาวนานแต่ ที่ฝากมาจากรุ่นสู่รุ่นถึงปัจจุบันนั่นก็คือ ผ้าตีนจก ถ้าการกลับมาของการใส่ผ้าไทยมาถึง การมีผ้าจกคูบัวไว้ใส่ในโอกาสต่องเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างยิ่ง ผ้าเหล่านี้ล้วนต้องทอด้วยมือและใช้เวลาว่างจากการทำนาทำงานบ้านมานั่งจกผ้ากัน จกคูบัวนี้กำลังจะเลือนลางหายไป ในตอนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปจังหวัดราชบุรีและเห็นชาวบ้านแต่งตัวสวยมารับเสด็จจึงมีพระราชปฏิสันถารกับชาวบ้านว่า ผ้านี้สวยซื้อที่ไหน ชาวบ้านจึงบอกว่าทอเองเจ้าค่ะ การสืบสานการทอผ้าตีนจกคูบัวจึงเริ่มต้นขึ้นใหม่แต่นั้น ปีนี้ยายซ้อนอายุ 84ปี แต่ร่างกายก็ยังแข็งแรง คุณสามารถจับผ้าตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลักหมื่นได้ที่นี่ ทีแรกก็คิดว่าแพงแต่ผืนหลักหมื่นใช้เวลาทอมากกว่า3เดือน จึงคิดว่ามันสมราคาจริงๆ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูครับ แปะเอาไว้คราวหน้าไปราชบุรีแวะดูผ้าตีนจกคูบัว ดีเจปืน

Velo Cafe Hua Hin

สำหรับคอกาแฟที่อยากจะสัมผัส ความเป็นร้านกาแฟอย่างแท้จริง มาหัวหินผมแนะนำร้านนี้ครับ Velo Cafe @huahin หลังจากที่เพื่อนในหัวหินหลายคนไปร้านกาแฟนี้แล้ว ผมเองก็อดไม่ได้ที่จะหาเวลาไปชิมกาแฟจากเวโล คาเฟ่บ้าง จะเรียกว่าร้านอินดี้ก็จะดูเชยไป เรียกว่าร้านกาแฟฮิปสเตอร์ก็ดูเกาะกระแสดี ที่ร้านมีโต๊ะอยู่ สองสามตัว แต่ที่น่าสนใจคือบาร์ของร้านเป็นไม้เนื้อแข็งชิ้นเดียวยาวทั้งแต่หน้าร้านไปจนถึงท้ายร้าน ผมเป็นคนที่ทานแต่กาแฟดำเพราะฉะนั้นจึงเรียกน้ำย่อยด้วย Hot Americano กาแฟดำพร้อมแก้วสีดำเสริ์ฟมาพร้อมกับน้ำเย็นอีกหนึ่งแก้ว รสชาติกาแฟหอมอมเปรี้ยวนิดๆความร้อนของกาแฟกำลังดีถือว่าผ่านครับ แวะเข้าไปในร้านเจอเพื่อนในหัวหิน กำลังนั่งอยู่หน้าคอมตัวเก่ง หลังจากนั้นจึงแนะนำให้รู้จักเจ้าของร้าน คุณแบงค์ดูเป็นคนที่มีหัวใจกาแฟอยู่ไม่น้อย ผมขออนุญาตถ่ายภาพเพื่อมาแนะนำร้าน ระหว่างนั้นคุณแบงค์ก็คุยกับสมาชิกใหม่เรื่องของกาแฟ คุยกันถึงส่วนผสมของนมสำหรับลาเต้ ซึ่งลงลึกขนาดต้องเป็นนมที่ต้องไปเสาะหามาจากที่ลพบุรีเท่านั้นอยากรู้ว่ายี่ห้ออะไรไปดูที่supermarket  ผมเห็นคุณแบงค์ทำลาเต้แล้วตีฟองออกมาสวยทีเดียว   ที่ตั้งของร้านหาไม่ยากครับ อยู่ถนนแนบเคหาสน​์ วิ่งถนนเพชรเกษมลงมาถึงซอยหัวหิน55 เลี้ยวเข้าซอยเจอแยกเลี้ยวซ้ายอีกที ขับตรงไปเรื่อยๆขวามือมองป้าย หัวหิน เพลส ร้านอยู่ตรงนั้นเลยครับ บรรยากาศทั่วไป กลางคืน อย่าลังเลที่จะแวะไปทดลองกาแฟครับ

Plamy Acoustic Concert

หยิบแผ่นนี้มารีวิวคงไม่สายเกินไปนะครับ อันที่จริงผมเป็นแฟนคลับของปาล์มมี่มาตั้งแต่อัลบั้มแรก ผมได้พบกับปาล์มมี่ตั้งแต่เธอออกอัลบั้มแรก ตั้งแต่ยังไม่มีใครรู้จัก ทางค่ายพาปาล์มมี่มารู้จักกับพวกเราดีเจคลื่น FAT Radio เราได้ฟังเพลงของปาล์มมี่ตั้งแต่ยังไม่ได้เจอตัว ก็รู้เลยว่าเธอมีพรสวรรค์ในการร้องเพลง ผมก็เก็บงานของเธอมาเรื่อยๆ รวมทั้งงานคอนเสริ์ตทุกครั้ง เรื่องตลกคือคอนเสริ์ตเท้าเปล่าอันนี้ตอนออกมาผมไม่ได้ซื้อครับ เพราะว่าเธอมีดีวีดี กา กา กา ออกมาแล้วเราก็เลยมองข้ามไป จนผมไปเห็นคลิปที่ฮิวโก้เล่นในคอนเสริ์ตนี้ เฮ้ยมันแจ๋วนี่หว่า คราวนี้การตามหาจึงบังเกิดขึ้นแต่โชคก็ไม่ได้เข้าข้างคนช้าอย่างผม ไปไหนก็ไม่มีแผ่นคอนเสริ์ตนี้แล้วครับ ร้านแมงป่องไม่มี ร้านแถวบ้านไม่มีสักร้าน (ยังไม่ได้ไปร้านน้อง ท่าพระจันทร์) สุดท้ายที่ผมคิดคือร้านในตลาดฉัตรไชยที่หัวหิน ใครไม่มีที่นี่มี แผ่นอินดี้ เพื่อชีวิต การ์ตูน คอนเสริ์ตอะไรถามมา ถามไปถามมาเลยถามถึงตลาดของซีดีเป็นอย่างไรบ้าง ร้านบอกว่าถ้าจะหวังให้เหมือนเมื่อก่อนคงไม่ได้แต่ร้านเปิดมานานก็ยังพอมีรายได้อยู่ไม่ต้องเช่าที่และยังคงจะทำต่อไป(ในขณะที่หลายร้านทะยอยปิดตัวลง) กลับมาที่แผ่นปาล์มมี่แผ่นนี้ได้นักดนตรีจากต่างประเทศมาเล่นดนตรีให้ทำให้กลิ่นของดนตรีนั้นแปลกหูออกไปเล่นเป็นอคูสติก ผมจะดีใจกว่านี้ถ้าปาล์มมี่จะทำเป็นซีดีออกมาขายด้วยแต่ไม่เป็นไรขอบคุณสำหรับงานดีๆ ขอบคุณร้านซีดีทุกร้าน ศิลปิน และคนสนับสนุนทุกคนที่ทำให้วงจรนี้ยังอยู่ได้ ลองฟังคลิปบางส่วนของconcertนี้ครับแล้วจะเข้าใจว่าทำไมผมจึงต้องหาแผ่นแท้ไว้ฟังเอง ดีเจปืน

I’m with you Sadao Watanabe

ผมเป็นแฟนปู่ Sadao Watanabe มาตั้งแต่สิบขวบ ก่อนรู้จัก Kenny G ซะอีก ปู่ทำเพลงแจ๊สให้ผมฟังง่ายและเข้าใจง่ายก่อนจะไต่เพดานปีนบันไดขึ้นไปฟัง ปีนี้ปู่อายุ 82 ปีแต่ยังเป่าแซกดังและยังไพเราะเหมือนเดิม ปู่ทำอัลบั้มมาแล้วไม่ต่ำกว่า 13 อัลบั้ม และก็สามารถพาอัลบั้มตัวเองขึ้น Top Chart BillBord มาเรียบร้อยแล้ว นี่เป็นอัลบั้มล่าสุดที่เพิ่งออกเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2015 ความน่าสนใจของอัลบั้มนี้คือสด อัดกันแบบสดๆไม่อัดกันทีละชิ้นแล้วมามิกซ์ทีหลัง ลองแวะไปฟังกันได้ครับ  ทดลองฟังเพลงใหม่ I’m with you ผ่าน iTune  

Japan Culture

  กระแสไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแรงตั้งแต่ประเทศญี่ปุ่นเปิดแขนรับประชากรไทยเข้าประเทศได้อย่างไม่ต้องขอวีซ่า เพราะที่ผ่านมาวีซ่าที่ถือว่ายากที่สุดของคนไทยคือการเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาและรองลงมาก็คือญี่ปุ่นนี่แหละ การแห่แหนของคนไทยที่ไปญี่ปุ่นจึงเหมือนไปเที่ยวจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยย่านไหนที่เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญเราจะได้ยินเสียงคนไทยทุกครั้งไป ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เดินทางไม่ไกลจนเกินไป อากาศก็ไม่หนาวเหน็บจนเกินไป อาหารก็เหมือนที่เราเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นบ้านเรา อะไรก็ดีไปหมดจนทำให้เป็นเป้าหมายของคนไทยที่ต้องการไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง คนญี่ปุ่นกับคนไทยนั้นมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันถ้าไม่ได้ศึกษาวัฒนธรรมเค้ามาก่อนก็อาจจะไม่เข้าใจการดำเนินชีวิตประจำวันเค้าได้ จริงๆแล้วก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรถ้าเราจะเข้าใจอะไรก่อนที่จะเข้าไปในบ้านเค้า 1. คนญี่ปุ่นจะไม่คีบอาหารส่งต่อกัน ถ้าคุณไปทานอาหารกับคนญี่ปุ่นแล้วเค้าคีบอะไรให้ ให้เค้าวางที่จานของคุณเลยอย่าเอาตะเกียบไปคีบของจากตะเกียบเค้า อันนี้ถือว่าผิดมารยาท 2. คนญี่ปุ่นจะไม่ปักตะเกียบไว้ในถ้วยข้าว ระหว่างรับทานอาหารแล้วเราอยากจะพักมือจากตะเกียบให้เอาตะเกียบวางข้างๆถ้วยไม่ปักตะเกียบลงไปในถ้วย 3. ขึ้นลงบันไดเลื่อนให้ชิดด้านในด้านหนึ่ง ตอนแรกผมไปแต่โตเกียวก็เห็นเค้าชิดซ้ายแล้วทางขวาสำหรับคนรีบแต่พอไปโอซาก้าเค้าชิดไปอีกข้างหนึ่ง ดังนั้นเราสังเกตหน่อยแล้วกันว่าถ้ายืนชิดด้านนึงถ้าเดินชิดอีกด้านหนึ่ง 4. เข้ารถไฟฟ้าให้สงบเสงี่ยม รถไฟฟ้าเป็นที่คนสัญจรเยอะมากดังนั้น เค้าจะไม่คุยกันเสียงดัง ไม่คุยโทรศัพท์ และบริเวณหัวท้ายของแต่ละโบกี้จะเป็นที่นั่งสำรองสำหรับผู้สูงอายุ ถ้ามันยังโล่งอยู่คุณนั่งได้แต่ถ้าคนเยอะและมีผู้สูงอายุคุณจงลุกขึ้นให้เค้านั่ง บางขบวนในช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีโบกี้สำหรับผู้หญิงสังเกตให้ดี ส่วนใหญ่จะเป็นสีชมพูทั้งตู้อันนั้นอย่าเข้าไป 5. ขึ้นแทกซี่ไม่ต้องเปิดปิดประตูเอง ประเทศนี้แปลกดีตรงที่เราโบกแทกซี่แล้วประตูมันอ้าเองได้ ขึ้นเสร็จมันปิดเองได้ ไม่ต้องไปปิดเปิดเอง 6. ซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตจะมีที่วางเงิน เมื่อเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อของเสร็จพนักงานจะบอกราคา เราสามารถยื่นเงินไปให้กับมือเค้าหรือว่าตรงที่คิดเงินจะมีถาดพลาสติกแล้วมียางเหมือนหนามแหลมๆสำหรับวางเงินให้กับพนักงานอย่าเอาเงินไปวางเรี่ยราดที่อื่นมันดูไม่ดี

ทรงพระเจริญ

ผมมีโอกาสได้ ตามเสด็จ รับเสด็จ ถวายงาน อยู่หลายครั้งแต่ครั้งที่เก็บภาพมาได้มีอยู่ครั้งเดียวคือตามเสด็จไปถ่ายสารคดีโครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เมื่อปีพ.ศ.2538 ที่เหลือไม่อยู่ในฐานะที่จะจับกล้องมาถ่ายรูปพระองค์ท่านได้ การเสด็จไปยังที่ธุรกันดารแต่ละที่ก็ไม่ได้แตกต่างจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไป พระองค์ท่านต้องเสด็จแทนพระองค์เพื่อติดตามความคืบหน้าแล้วถวายรายงานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯในภายหลัง ผมนำขบวนเสด็จไปล่วงหน้าแต่เช้ามืด เก็บภาพ ดูแนวกั้นน้ำ และพื้นที่น้ำท่วมในเขตเขื่อนและสันเขื่อน เมื่อพระองค์เสด็จพระดำเนินมาถึง ก้าวแรกก็แย้มพระสรวจกับ ข้าราชการและชาวบ้านที่มารอรับเสด็จอย่างไม่ถือพระองค์ ทรงมีพระปฏิสันฐานกับชาวบ้านสอบถามถึงที่ทำมาหากิน และที่อยู่ใหม่ที่ทางการจัดหาไว้ให้ ว่าพอทำกินไหม จากนั้นก็เสด็จพระดำเนินไปรับฟังความคืบหน้าของโครงการ ขณะที่อยู่ในขบวนเสด็จฯพระองค์ท่านให้หยุดเพื่อดูแนวน้ำที่จะท่วมเขตพื้นที่ ถือเป็นพระกรุณาธิคุณที่พระองค์ดำเนินรอยตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดมาแม้ว่าเส้นทางจะลำบากแค่ไหนแต่เจ้าหญิงพระองค์นี้ไม่เคยย่อท้อในการเสด็จพระดำเนินเพื่อประชาชนของพระองค์ ในวโรกาสที่พระองค์มีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้พระองค์มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงพระเกษมสำราญเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพุทธเจ้า นายชลธิบ รังสิพราหมณกุล (ถ่ายภาพโดยผมและหัวหน้างาน)