Latest Posts

จูดี้หนังอินดี้เล็กๆแต่ยิ่งใหญ่ ผมเป็นแฟนเรเน่มาตั้งแต่เธอเล่นหนังเรื่องแรกๆจนเธอดังระเบิด แล้วก็หายไปจากวงการนับสิบปี กลับมาอีกครั้งเธอเล่นเป็นนักร้องที่เคยโด่งดังและก็กลับมาวงการ มันเหมือนชีวิตของเธอเสียนี่กระไร ตัวหนังไม่ขอแตะมากสิ่งที่สะดุดคงไม่พ้นเพลงประกอบ Over The Rainbow Over The Rainbow ถูกบรรจุให้เป็นเป็นเพลงขึ้นแท่นอมตะ นักดนตรีแจ๊สหลายคนนำเพลงนี้ไปเล่น ไปบันทึกเสียง จนโด่งดัง ต้นกำเนิดเพลงนี้มาจาก Judy Garland นั่นเอง เธอร้องเพลงนี้เป็นคนแรก ในภาพยนตร์ที่เธอแสดง ทั้งนักแสดงและเพลงทำให้ตรึงเวลาไปกับภาพยนตร์เรื่องนี้ไปจนจบเรื่อง

ส่วนตัวเป็นคนชอบหนังแนว super hero มากๆแบบมาช่วยโลก แต่หนังเรื่องนี้ตีความในแนวทางที่แตกต่างออกไป การเกิดขึ้นของสิ่งหนึ่งเป็นผลมาจากสิ่งหนึ่งหรือหลายสิ่งที่ตีเส้นให้เขาไปทางนั้น ผมยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ดูแต่ตัวอย่างหนัง ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผมสะดุดก็คือท่วงทำนองเพลงปิดท้ายของ Trailer นี้ ที่มีความเป็นแจ๊สอย่างชัดเจน send in the clowns คือประโยคปิดท้ายตัวอย่างหนัง เพลงที่ผมเคยฟังมาตั้งแต่เด็กๆ เพลงนี้เกิดขึ้นในปี 1973 ซึ่งเริ่มต้นด้วยการเป็นเพลงประกอบละครเวที และหลังจากนั้นศิลปินแจ๊สก็เอามาร้องประหนึ่งว่ามันคือเพลงชาติของชาวแจ๊สเลยทีเดียว เวอร์ชั่นที่คุ้นหูมากที่สุดสำหรับผู้เขียนเองคงเป็นของ Frank Sinatra เพลงช่วยตอกย้ำความหม่นของหนังให้ดำดิ่งลงไปใต้ก้นบึ้งของมหาสมุทร เนื้อเพลงเองก็เหมือนจะตัดพ้อในชะตาชีวิตตัวเอง นักวิจารณ์หลายคนไม่แนะนำให้พาเด็กไปดูเพราะหนังไม่ใช่ ฮีโร่โลกสวยอย่างที่คิด การตีแผ่การเป็นคนร้ายในสังคมมันเป็นดาบสองคม คมแรกก็คงจะบอกได้ว่าสังคมมันเป็นแบบนี้นะเราควรจะปรับให้ดีขึ้น ส่วนคมที่สองอาจจะมีการเลียนแบบมากขึ้น ก็ขอให้เรามีภูมิต้านทานที่ดี ที่จะพัฒนาสังคมเราให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น แม้จะน้อยนิดแต่ก็ยิ่งใหญ่มหาศาล

พูดถึงหนังที่เป็นแนว sci-fi แล้วผมจะมักไม่ค่อยพลาด นั่งดูตัวอย่างหนังไปเรื่อยๆจนไปสะดุดหนังอยู่เรื่องหนึ่ง ที่คิดไว้ในใจว่าต้องหาเวลาไปดู เรื่องนี้ใช้นักแสดงไม่มาก ว่าด้วยนักโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ชนะการแข่งขันและได้รับเชิญไปบ้านในหุบเขา นาธานในฐานะซีอีโอต้องการให้เซเลบพัฒนาระบบของหุ่นยนต์ตัวนึงที่ชื่อว่าอีวา เซเลบพบว่าทุกครั้งที่เค้าทดสอบข้อมูลจะถูกลบออกเค้าจึงคิดที่จะพาเธอหนี ผมดูแล้วก็นึกถึง พระเจ้าตาตอนลงมาช่วยสุดสาคร แล้วก็สอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวให้เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน หุ่นยนต์มันจะเก่งอย่างไรก็ไม่เคยเหนือไปกว่าความคิดที่ซับซ้อนของคนที่ยากแท้หยั่งถึง