Browse Category

มีเรื่องมาเล่า

Home / Browse Category "มีเรื่องมาเล่า"

Latest Posts

Gucci retro

เมื่อไม่นานมานี้ แบรนด์ดังอย่าง GUCCI ลงโฆษณาผ่าน timeline ใน social ของผม สิ่งที่ทำให้สตั๊นไปได้คือเสียง solo trumpet สามารถสะกดวิญญาณให้หยุดนิ่งและมองไปที่โฆษณานั้น ภาพทั้งหมดเป็นภาพย้อนยุคให้เรานึกถึงการเดินแฟชั่นสมัยปี 1960 สิ่งแรกที่คิดคือใครเป่า trumpet (นะ) คนแรกที่ลอยขึ้นมาคือ Miles David ศิลปินแจ๊สที่เป็นเจ้าพ่อแห่งวงการทรัมเป็ตแจ๊ส เค้าเป่าได้ทุกแนว improvise ไปถึงขอบจักรวาล เป่าตั้งแต่ฟังโคตรง่ายไปจนฟังไม่รู้เรื่อง ภาษาแจ๊สเรียกว่า avant garde jazz ทำเวปชื่อ jazz แต่ไม่ค่อยได้พูดถึงแจ๊สเลย(จริงๆมีคนเคยบ่นเรื่องนี้เหมือนกัน) เลยหยิบเรื่องนี้มาพูดบ้าง เพลงประกอบโฆษณานี้อยู่ในอัลบั้ม Ascenseur pour l’échafaud โดย Miles David

Read More
อย่าเพิ่งตัดสินใจมาการองถ้าคุณยังไม่ได้ทานของจริง

คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินขนมจากฝรั่งเศสชื่อว่ามาการองและคงมีจำนวนมากกว่าที่เคยได้ยินแต่ไม่เคยลิ้มลองมาการองในจำนวนที่เคยลองชิมมาการองก็คงจะไม่ประทับใจไปอีกเกินครึ่งซึ่งผมเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น จำไม่ได้แล้วว่ามาการองเริ่มเข้ามานิยมในเมืองไทยเมื่อไหร่พอเขาเริ่มนิยมกันก็เป็นธรรมดาที่คนไทยจะต้องไปลองสักครั้งหลังจากที่เจอร้านมาการองร้านแรก ความประทับใจแรกคือ แพงจะแพงอะไรนักหนาโดนัทชิ้นละ 9 บาทเองแต่กลัวจะตกเทรนก็ซื้อมาลองสักกล่อง ครับ ไม่อร่อยมันแข็ง ร่วน หวานไปถึงโคนลิ้น จบกันประสบการณ์ มาการอง ผมได้มีโอกาสได้ลองมาการองอีกครั้งจากคำแนะนำของรุ่นน้อง บอกตามตรงไม่กล้าทานแต่ดูแล้ว ทำไมคนสั่งจังเลยเจ้านี้เป็นเพราะแม่ค้าหรือ รสชาติขนมกันแน่สุดท้ายทางร้านคงทนไม่ไหว ให้ลองชิมพระเจ้าช่วยกล้วยไม่ได้ทอด มาการองมันเป็นแบบนี้นี่เองคือมันกรอบ นุ่ม เหนียว ยืดๆ และมีกลิ่มหอมติดปลายจมูกรสชาติจริงๆแล้วไม่หวานมาก คือจิบกับชาหรือทานกับกาแฟผมว่ามันเข้ากันที่สุด ประสบการณ์เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่าบางครั้งในชีวิตเรา เราอาจจะเจออะไรครั้งแรกที่มันแย่ก็ไม่ได้แปลว่า อันนี้มันจะแย่ไปทุกบริบทคุณอาจจะเคยมีประสบการณ์ครั้งแรกกับความรักที่มันมีพิษก็ไม่ได้หมายความว่าความรักคือยาพิษไปทั้งหมดพิษของสมุนไพรบางอย่างกลับเอาไปทำเป็นยารักษาโรคร้ายได้หลายอย่างถ้าเราสามารถควบคุมและใช้ในปริมาณที่มันพอเหมาะพอดี คนส่วนใหญ่ชอบตัดสินจากประสบการณ์ครั้งแรกที่เคยเจอถามว่าผิดไหมก็ไม่ผิด ถามว่าใช่ไหมก็ไม่ใช่ทั้งหมดนี้มันรอการพิสูจน์จากตัวคุณเอง ปล.ขอบคุณมาการองจาก delabelle

ความผิดพลาดเล็กน้อยคือเรื่องน่ารัก

สี่ตีนยังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง เป็นภาษิตที่ผมได้ยินมานานมาก ถ้าเป็นไปได้คงไม่อยากมีใครทำผิดพลาดอยากจะทำให้มันสมบูรณ์แบบไปเสียทุกเรื่อง แต่ในความเป็นจริงแล้วความสมบูรณ์แบบมีเพียงแต่ในนิยาย และคงมีแต่เจ้าชายกับเจ้าหญิงในนิยายเท่านั้นที่ไม่เคยผิด ความผิดนั้นมีหลายระดับว่ากันตามกฎหมายผู้เยาว์กระทำความผิดไม่ร้องรับโทษบุคคลผู้บรรลุนิติภาวะเมื่อกระทำความผิดต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนดในบรรดาความผิดเองก็ยังแบ่งแยกย่อยลงไปอีกคือกระทำโดยเจตนากระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อนกระทำโดยประมาทกระทำการอันเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ความผิดแตกต่างกันการรับโทษก็จะแตกต่างกันไป ทางศาสนาแล้วการทำผิดก็เป็นบาปเช่น การฆ่าสัตว์เป็นบาปแต่บาปในการฆ่าสัตว์แต่ละอย่างก็ไม่เท่ากันการฆ่าสัตว์ใหญ่บาปมากกว่าสัตว์เล็กการฆ่าสัตว์ที่มีอายุยืนบาปมากกว่าสัตว์ที่มีอายุสั้นการฆ่าสัตว์ที่มีคุณบาปมากกว่าสัตว์ที่ไม่มีคุณ ความยืดหยุ่นของกฎหมายและศาสนาคือเมื่อกระทำความผิดแล้วสำนึกผิดความผิดก็เป็นอันทุเลาลงเช่นผู้กระทำผิดยอมรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อชั้นศาลหรือพระสงฆ์กระทำการปลงอาบัติเมื่อไม่ได้เจตนาผิดศีล ทั้งหมดนี้ก็จะโยงถึงความผิดเล็กน้อยที่พอจะให้อภัยได้เพราะตามหลักปรัชญาแล้วการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การให้อภัย เรื่องน่ารักเรื่องนึงคือคนสองคนกำลังจะเดินทางไปร้านอาหารญี่ปุ่นที่ไม่เคยไปรู้แต่ว่าอยู่ใกล้กับวัดนึงเนวิเกเตอร์ก็เปิดแผนที่และชะโงกหน้าดูสลับไปมาวินาทีที่ต้องตัดสินใจเลี้ยวซ้ายหรือขวา เนฯให้เลี้ยวซ้ายแต่คนขับเลือกเลี้ยวขวาเพราะเห็นป้ายวัดเล็กๆแล้วก็ถึงร้านโดยสวัสดิภาพโดยเนฯนั่งเงียบๆแบบสำนึกผิดอยู่เรื่องนี้ดูไปก็ไม่ใช่เรื่องน่าจะผิดแต่บางคนก็คิดว่ามันผิดแต่ถ้ามองว่ามันเป็นเรื่องน่ารักมันก็จะน่ารักเพราะรักย่อมเข้าใจในรัก ปืน

เมื่อไหร่จะสวย

เมื่อลูกสาวย่างเข้าวัยรุ่นเดินเข้ามาถามพ่อของเธอว่า เมื่อไหร่เธอจะสวย เธออยากสวยเหมือนคนโน้นคนนี้บ้าง พ่อหันไปยิ้มแล้วบอกกับลูกว่าลูกสวยที่สุดอยู่แล้ว แต่เธอก็ไม่เข้าใจ พร้อมกับชี้ไปที่หน้าตัวเองแล้วบอกว่าสิวขนาดนี้นี่นะสวยขอตังค์ไปทำหน้าหน่อย ลูกสาวอีกบ้านหนึ่งเดินไปหาพ่อขอเธอพร้อมกับบอกพ่อว่าอยากไปดัดฟัน เธอมีฟันที่ไม่สามัคคีกันหลายซี่ พ่อก็หันไปยิ้มแล้วก็บอกว่าอย่างนี้ก็ดีแล้วลูก สองบ้านนี้ไม่รู้จักกันบ้านแรกผมรู้จักพ่อของเขา บ้านที่สองผมรู้จักลูกสาวของพ่อ พ่อได้บอกกับลูกสาวว่า หนูโชคดีมากที่มีสิวที่หน้า นี่คือธรรมชาติที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันความงามของหนูเอาไว้ก่อน วัยรุ่นต้องยังไม่สวยเพราะความสวยที่แท้จริงของหนูคือความรู้ เมื่อหนูมีความรู้หนูจะสวยเมื่อไหร่ก็ได้ และจะเลือกใครก็ได้ วันนี้ถ้าเราถอดเกราะป้องกันนั้นออก ก็เหมือนดอกไม้ที่มันเบ่งบานก่อนเวลา เหล่าผึ้งก็มุ่งแต่มาตอมดอมดม จนเราไม่มีเวลาที่จะสนใจการเรียน เมื่อมีผึ้งมาตอม ดอกไม้ก็จะเฉาก่อนเวลาและไม่สามารถให้ผลผลิตที่ดีได้เพราะบานก่อนเวลาและติดผลที่ไม่สมบูรณ์ นี่คือเรื่องราวของต้นไม้ ไม่ต้องห่วงว่าตอนวัยรุ่นคุณไม่ใช่ดาวเด่น เพราะดาวที่อยู่บนท้องฟ้านานที่สุดกลับไม่ใช่ดาวที่สว่างที่สุด แต่ดาวที่นักเดินทางใช้เป็นจุดอ้างอิงในแผนที่นั่นคือดาวเหนือ เพราะดาวเหนืออยู่ทิศเดียวกับแกนหมุนของโลก ไม่ว่าโลกจะหมุนอย่างไรเราก็จะเห็นดาวอยู่ใกล้เคียงที่เดิม ดังนั้นถ้าเราสวยจากภายในเราจะสวยไปตลอดกาล แล้วเชื่อไหมครับยิ่งวัยรุ่นคุณดูธรรมดามากเท่าไหร่ตอนโตคุณจะยิ่งสวยขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านัก

นิเทศฯจำเป็นไหม

หลายคนเริ่มตั้งคำถาม(กับผม) ว่านิเทศศาสตร์ยังจำเป็นอยู่ไหมถามทั้งคนนอกวงการ ที่ลูกอยากจะเข้าวงการคนอยู่ในวงการเองที่เกิดความไม่มั่นใจในวงการและคนที่อยากจะออกจากวงการ ผมในฐานะคนที่อยู่(มานาน)ในวงการเพราะจับพลัดจับผลูเข้ามาในวงการก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ขอเล่าถึงประวัติวงศ์ก่อนละกันถ้าย้อนกลับไปในสมัยนั้นนิเทศศาสตร์คืออันดับ๑ ของสายศิลป์วงการสื่อมวลชนจะมีวารสาร(สื่อสิ่งพิมพ์) ถือว่าเป็นพี่ใหญ่ประชาสัมพันธ์ ก็เป็นเจ้าแม่ในองค์กรใหญ่ๆโฆษณา ถือว่ารายได้มากสุดและวิทยุ/โทรทัศน์ ที่กำลังต้องการคน ผมอยู่กองสุดท้าย ที่ทำทั้งวิทยุและโทรทัศน์การเข้าวงการแล้วจะออกมาอยู่ข้างหน้าเวทีเป็นเรื่องยากมากเพราะเวทีด้านหน้ามันเล็กกว่าข้างหลังเสมอเว้นแต่คุณจะโดดเด่นพอที่จะแหวกที่ขึ้นมาด้านหน้าได้ ตัดภาพกลับมาที่ภาพปัจจุบันเลยทุกวันนี้ ใคร ก็สามารถมาอยู่ข้างหน้าได้คุณสามารถทำงานเกี่ยวกับตัวหนังสือได้ทั้ง BLOG ทั้ง PAGE, Face, Twitterชอบถ่ายภาพไป IG ชอบทีวีไป YouTube วิทยุ Podcastวัยรุ่นหน้าใหม่ก็ไป Vlog จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันเราทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้อง เรียนมาก่อน ไม่ต้องอยู่ข้างหลังก่อนมาถึงก็อยู่ข้างหน้าได้เลย เพราะทุกอย่างมีพร้อมอยู่แล้วรอเพียงแต่ว่าคุณมีของหรือเปล่าผมเห็นหลายคนประสบความสำเร็จทั้งที่ไม่ได้จบ สายนิเทศศาสตร์บางคนอายุเกิน60 ก็หันมาทำpodcast มีรายได้เกินแสนบางคนหน้าเหี้ยมโหด ก็ไปรีวิวร้านอาหารโด่งดังหน้าตาดี รีวิวอะไรก็มีชัยไปกว่าครึ่ง นักศึกษาหลายคนที่เรียนนิเทศฯแบบไม่มีเป้าหมายเรียนให้จบไปก่อนแล้วค่อยไปตายเอาดาบหน้าเพราะคิดว่าหางานทำต่อง่าย หรือคิดว่าเรียนง่ายการต่อสู้แบบไม่มีทิศทางจึงเพลี่ยงพล้ำคนที่ไม่ได้เรียนแต่มีเป้าหมายชัดเจน เรียนแล้วดีอย่างไรการเรียนเหมือนการวางรากฐานคุณจะรู้ว่า อย่างไร

anyway Thai airways

ผมกำลังนั่งรอเรียกขึ้นเครื่องบิน และนั่งมองเครื่องบินลำที่กำลังจะพาผมกลับบ้าน จำได้ว่าขามาเครื่องบินชื่อ เมธินีนาถ และ ขากลับคือ มุกดาสยาม ทุกครั้งที่ออกนอกประเทศ ถ้าเป็นคนเลือกสายการบินเอง ผมก็จะเลือกการบินไทย ด้วยเหตุผลนานาประการ ผมก็ยังรักในสายการบินไทย ถ้าเรามีครอบครัวใหญ่ แน่นอนครับเราจะเคยเจอปัญหาต่างๆในครอบครัวใหญ่ คือเราอาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับญาติคนนี้ไปซะทุกเรื่อง แต่ถืงทางที่จะต้องเลือกผมก็เลือกสายเลือดก่อน เรื่องการปรับปรุง ก็ต้องกระทำควบคู่กันไป คำว่าไทย มันเหมือนเป็นครอบครัวใหญ่สำหรับผม แน่นอนว่าเราอยู่ในบ้าน เราย่อมเห็นสิ่งที่ไม่ดี อะไรที่แก้ได้ที่ตัวเอง ผมก็เลือกแก้ที่ตัวผมเองก่อน อะไรที่แก้ไม่ได้ ผมก็ห่างออกจากสิ่งนั้น บางคนก็จะเลือกที่จะป่าวประกาศ สิ่งที่ไม่ดี ผมคิดว่า เพื่อที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี บางคนก็เลือกนำเสนอในสิ่งที่ดี ซึ่งบางคนอาจจะมองว่า นี่มันวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ แต่ทั้งหมดมันก็คือสิ่งที่เราต้องอยู่ ตามรัฐธรรมนูญแล้วไม่มีใครเอาเราออกจากความเป็นไทยได้ แม้ว่าจะมีข่าวเกี่ยวกับการบินไทยอย่างไร ผมก็ได้รับการปฏิบัติเทียบเท่าประชาชนคนหนึ่ง ขากลับมีการดีเลย์ เนื่องจากสภาวะภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ผมก็รู้สึกว่าดีที่ได้นั่งอยู่บนเครื่องแล้ว

ลอยประทีป ลอยกระทง ในคติพราหมณ์

ลอยกระทงในคติพราหมณ์ ลืมตามาดูโลก เขาก็ลอยกระทงกันแล้ว เพลงลอยกระทงก็มีแล้ว วันเพ็ญเดือนสิบสองน้ำก็นองเต็มตลิ่ง… เราส่วนมากก็ไปลอยกระทงตามกระแส พอโตขึ้นก็เริ่มเรียนรู้ประเพณีลอยกระทง แล้วก็เริ่มถอยหลังลงลึกเรื่องลอยกระทงไปเรื่อยๆ จนไปถึงจุดกำเนิดของการลอยกระทง เชิญล้อมวงกันเข้ามา พุทธศาสนามีมาประมาณ 2500 ปี ส่วนศาสนาพราหมณ์ก็ประมาณกันว่าก่อนพุทธกาล 2500 ปี แค่ย้อนไปห้าสิบปีโลกเราวันนั้นยังไม่เหมือนวันนี้ ย้อนไปร้อยปีก็ไม่เหมือนอีก คิดว่าร้อยปีที่แล้วโลกเราเป็นอย่างไร และห้าพันปีก่อนโลกเราจะเป็นอย่างไร เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ สมัยห้าพันปีก่อน ถ้าเราบอกว่ากรดบวกด่างเป็นกรด ด่างบวกกรดเป็นด่าง ลบคูณลบเป็นบวก คนคงจะงงกันหมด กว่าสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าจะแยกแยะ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว เวลาก็ล่วงเลยมาอีก2500ปี ตอนนั้นคนยังไม่เข้าใจอะไรลึกซึ้งขนาดนั้นทุกคน แล้วจะทำยังไงให้โลกเมื่อ5000ปีจะอยู่อย่างเคารพกันและกัน ตอนนั้นคนเชื่อในธรรมชาติ เทพเจ้า ผีสาง ยังไม่คิดว่าฝนตกเพราะความกดอากาศสูงเจอความกดอากาศต่ำ นักปรัชญา นักคิด ที่เป็นนักบวช หรือพราหมณ์ จึงมีกุศโลบายให้

จงหิวเสมอ

เมื่อเช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น กวางต้องออกวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อรักษาชีวิตไม่ให้ถูกสิงโตจับกิน และเช้าวันเดียวกันเริ่มต้น สิงโตต้องออกวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อให้มีอาหารประทังชีวิต ความหิวทำให้เราต้องออกเดินทางหาอาหาร และความหิวก็ทำให้เราต้องดิ้นรนไม่ให้กลายเป็นเหยื่อ ดังนั้นความหิวจึงเป็นพลังขับเคลื่อนอะไรหลายอย่างให้เราเดินหน้าต่อไป ลองนึกภาพว่ามนุษย์ไม่ต้องกิน ทรัพยากรธรรมชาติรวมทั้งสิ่งมีชีวิตต่างๆคงเหลือเฟือ และเราอาจจะหาความหมายของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ไม่ได้ การกินจึงถูกบรรจุเป็นปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ข้อแรก ช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดที่ต้องยอมรับว่า คือช่วงเวลาที่เรากำลังกินนั่นเอง เมื่ออาหารผ่านลิ้นผัสสะทั้งห้ามันเปิดออกและเรารับมันอย่างตั้งใจ ผมมีข้อสังเกตอย่างหนึ่งในช่วงเวลาที่ผมต้องทำสงครามกับน้ำหนักตัวเอง คือการไม่กิน หรือการกินน้อย มันอาจจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนไม่ชอบกิน แต่มันเป็นเรื่องที่ทรมานที่สุดสำหรับคนที่การกินคือความสุขของชีวิต วิธีทำน้ำหนักลงได้คือต้องต่อสู้ความรู้สึกหิวตลอดเวลา ความหิวเป็นพลังให้เราระลึกเสมอว่าเรากำลังต่อสู้เพื่ออะไร การกินที่มากเกินไปก็ทำให้เราตายได้ การไม่กินก็ทำให้เราตายได้เช่นเดียวกัน เมื่อหิวมันจะผลักให้เราไปข้างหน้า รู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย และอดทนรอให้ถึงวันพรุ่งนี้แทบจะไม่ไหว วันนี้ขอจบด้วยคำพูดของศาสดา เพื่อทำให้ตัวเรานั้นพัฒนาอยู่เสมอ Stay hungry, Stay foolish ปืนครับ

กระบี่ที่ดีที่สุด

ตอนผมเข้ายุทธจักรใหม่ๆ ผมมักคิดว่าการมีกระบี่ที่ดีที่สุดนั้นจะทำให้เราเป็นจอมยุทธ เพราะว่าจอมยุทธที่โด่งดังมักจะครอบครองกระบี่ไร้เทียมทานทั้งนั้น ผมเริ่มเก็บสะสมเงิน รับจ้างทำงานเล็กๆน้อยๆเพื่อสะสมเงินซื้อกระบี่จอมยุทธ กว่าจะซื้อมาได้มันใช้เวลานานพอสมควร ผมได้กระบี่จอมยุทธความรุนแรงระดับ1 มันได้ชื่อว่าจอมยุทธ แต่มันก็เป็นแค่ระดับต้นๆเท่านั้น ไม่เห็นมันจะทำให้ฝีมือดีขึ้นเลยวะ ผมรำพึงในใจ หรือว่าเราต้องปีนขึ้นไปอีก ผมเก็บตังค์เพิ่มและซื้อกระบี่จอมยุทธระดับ5 เริ่มมีน้อยคนที่จะมีกระบี่ระดับนี้ แต่ฝีมือก็ไม่เห็นดีขึ้นมาเลยวุ้ย ผมออกจะผิดหวังเล็กน้อยและออกท่องยุทธจักร โชคดียังเป็นของผมที่มีโอกาสได้เจอ ผู้เฒ่าแห่งพรรคกระยาจก สอนกระบวนท่าไม้เท้าตีสุนัข ได้เจอไอ้หนุ่มหมัดเมา สอนวิชามวยวัด และตงฟานปุ๊ป้าย ผู้ใช้เข็มแทนกระบี่ ทำให้ผมเห็นว่าจอมยุทธที่ได้รู้จัก ไม่มีใครใช้สุดยอดกระบี่สักคน แต่กลับสามารถใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นเป็นกระบี่ได้ และใช้ล้มคู่ต่อสู้ได้ทุกราย กระบี่ระดับ5จึงนอนพักอยู่ในตู้ และถูกหยิบมาใช้บ้างเป็นบางครา วันนี้ทุกครั้งที่ท่องยุทธจักร จอมยุทธทั่วไปก็มักจะเข้าโรงเตี๊ยม เพื่อพูดคุยกันในเรื่องกระบี่จอมยุทธ และกระบี่ไร้เทียมทานที่ออกรุ่นใหม่ตลอดเวลา แต่ไม่มีใครพูดถึงฝีมือที่ต้องฝึกปรือด้วยตนเอง เรื่องจริงอีกอย่างคือจอมยุทธจะไม่เข้าโรงเตี๊ยม เพื่อพูดคุยเรื่องกระบี่แต่จะเข้ามาเพื่อดื่มสุราเท่านั้น และจอมยุทธจะอยู่ปะปนอยู่กับเราในท้องถนนนี่แหละ เพียงแต่คุณจะรู้ไหมว่า นั่นคือเฒ่าทารกแห่งพรรคกระยาจก หรือตงฟานปุ๊ป้ายแห่งพรรคสุริยันจันทรา

เมื่อคุณยิ้มให้โลก โลกก็ยิ้มให้คุณ

เราเคยได้คำขวัญ Land of smiles จากนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาแล้ว และเราก็เคยได้คำขวัญ Thai style จากพวกเรากันเองมาแล้ว ทุกอย่างไม่ได้เกิดจากคนอื่นแต่เกิดจากตัวเรา แล้วมันจะสะท้อนคนอื่นกลับมา สิ่งที่ยากที่สุดคือการเริ่มต้น ผมเห็นคนแสดงศักยภาพทางความคิดเยอะแยะ แต่เห็นคนลงมือทำเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และในการลงมือทำนั้นคนประสบความสำเร็จก็จะมีแค่เศษส่วน การเริ่มต้นคือจุดเริ่มต้นของสรรพสิ่ง สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือจะทำอย่างไรให้เขายิ้มให้เรา คำตอบที่ง่ายที่สุดคือ ยิ้มให้เขา แล้วจะให้เขายิ้มให้เราแค่ไหน ก็อยู่ที่เราจะเปิดยิ้มให้เขาแค่ไหนเช่นกัน สมัยที่ผมอบรมการเป็นคนมีมารยาท ครูสอนผมว่า การไหว้นั้นเป็นการทักทายที่งดงามอย่างหนึ่ง แต่ การรับไหว้นั้นเป็นเสน่ห์ยิ่งกว่า เชื่อไหมครับ หลังจากนั้น ตั้งแต่รปภ. แม่บ้าน ยันกำนันตำบล ผมจะหยุดยืนรับไหว้เขาอย่างสวยงามทุกครั้ง ก็ในเมื่อเขา ทำด้วยใจ เราก็ต้องตอบกลับด้วยใจเช่นเดียวกัน แต่ละคนจะมีความยากในการยิ้มที่แตกต่างกัน และใช้วิธีการง้างยิ้มที่ไม่เหมือนกัน พื้นฐานเริ่มจากการยิ้มที่หัวใจก่อน แล้วปากมันจะออกมาเอง ยิ้มจะเป็นรองแค่การกอด

ความสุขของไส้เดือน

บ่อยครั้งที่ใครสักคนจากโลกนี้ไป แล้วใครบางคนก็ชอบที่จะบอกว่า โลกนี้มันไม่แน่นอน ดังนั้นอะไรที่เป็นความสุขก็ทำซะ จริงๆแล้วผมเห็นด้วยกับประโยคที่ว่านี้ ส่วนนึง แต่ก็มีอีกหลายส่วนที่รู้สึกย้อนแย้งอยู่ในที อย่างแรก ความสุขนั้นมันไปรบกวนคนอื่นไหม หลายครั้งที่ความสุขมันเกินเลย ไปกระทบสิทธิคนอื่นทำให้คนอื่นไม่มีความสุข อันนี้ก็ต้องลดลง อย่างที่สอง ความสุขนั้นไปเบียดเบียนตัวเองไหม อันนี้หลายคนบอกว่าตัวเขาจะทำอะไรก็ได้ แต่การที่มีความสุขแล้วร่างการพังพินาศ อันนี้ก็ต้องพิจารณา อย่างที่สาม ความสุขนั้นได้ประโยชน์กับตนเองไหม การทำอะไรแล้วมันเกิดประโยชน์กับตัวเอง สิ่งนั้นดี เช่นการหันมาออกกำลังกาย วิ่งแล้วมีความสุข อันนี้ดี อย่างที่สี่ ความสุขนั้นมันเกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นหรือเปล่า อะไรที่ทำแล้วนอกจากตัวเองมีความสุข สังคมได้รับความสุขแผ่กระจายในวงกว้าง นั่นเป็นสิ่งประเสริฐ เช่นอะไรดี บริจาคเลือดละกัน หลายคนที่ได้รับก็มีชีวิตรอดต่อไปได้ เมื่อตอนที่มีคนบอกว่าอยากทำอะไรก็ทำ ผมนึกถึงไส้เดือน ไส้เดือนนี่อยากทำอะไรก็ทำจริงๆ เพราะไม่ต้องคิดมากอยู่กับดินชื้นๆ ไชไช มีความสุข แต่…มันเกิดประโยชน์แฮะ ดินที่บ้านสวนไส้เดือนเยอะมาก